Friday, January 27, 2012

Cloud Nothings - Attack on Memory

Attack on Memory เป็นชื่อที่ต้องการสื่อให้เหล่าฮิฟสเตอร์ตระหนักว่า งานอัลบัมลำดับที่ 2 นี้ จะไม่เป็นอย่างที่จินตนาการหรือคาดหวังไว้อย่างแน่นอน มันจะเป็นงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากนำมาเปรียบเทียบกับงานรวมซิงเกิ้ลและงานเดบิวที่ผ่านมา

พวกเขาได้ Steve Albini ที่โปรดิวซ์งานดังอย่าง In Utero ของ Nirvana คอยถือหางเสือให้ในวันนี้ สาเหตุมีเพียง 8 แทร็ค เพราะถ้าใส่จำนวนเพลงไปมากกว่านี้ นักฟังเพลงอาจรู้สึกหดหู่และเครียดตามอารมณ์ของเพลงจนเกินไป รวมทั้งต้องการให้บรรยากาศของอัลบัมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พลอยทำให้นึกถึงงานของ Youth Lagoon อย่าง The Year of Hibernation ที่มีแค่ 8 แทร็ค เพราะ Trevor Powers ไม่ต้องการให้เพลงอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ไปทำลายธีมของอัลบัม

ทั้ง 8 แทร็ค เป็นเหมือนเพลงที่ต่อต้านวัฒนธรรม Indie Pop ที่มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อนในวันนี้ อย่างแทร็คเปิด No Future/ No Past ไม่พบท่อนฮุกเลยสักนิด ได้ยินแต่ความดิบ สัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึก เพลงค่อย ๆ บิ้วอารมณ์โดยเริ่มจากจุดต่ำสุดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดพีคสุดในตอนท้าย บางคนบอกว่าฟังเพลงนี้แล้วได้กลิ่นอายเพลง Heart-shaped Box ของ Nirvana รวมทั้งบรรยากาศจากงานเก่า ๆ ของ Weezer

อีกแทร็คที่เป็นไฮไลน์คือ Wasted Days เพลงที่มีความทะเยอทะยานอย่างที่สุด ความยาวเกือบ 9 นาที อินโทรของเพลงคล้าย Everlong ของ Foo Fighters,ทั้งกลอง เบส และกีตาร์ถูกกระหน่ำอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงตะโกนที่ออกจากลำคอผ่านริมฝีปากที่ประชิดติดไมค์ของ Dylan Baldi ดิบ ก้าวร้าว เนื้อหาของเพลงพูดเกี่ยวกับความคับข้องใจในชีวิตที่ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ต้องย่ำอยู่กับชีวิตแบบเดิม ๆ อย่างนี้ตลอดไป รับรองว่าเพลงนี้จะเป็นที่น่ารังเกียจอย่างที่สุดสำหรับคลื่นวิทยุเต่าล้านปีในประเทศตอแหลแลนด์แห่งนี้

เพลงที่ป๊อปที่สุดคือ Stay Useless ที่ฟังครั้งแรกต้องหลงรักทันที โมโลดี้ซิกแซกพลอยทำให้นึกถึงงานเก่า ๆ ของ The Strokes สำหรับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานที่เกรียวกราดลักษณะนี้ แนะนำให้หาแทร็คนี้มาฟังก่อน

แทร็คชื่อ Separation แม้ว่าจะมีแต่ภาคดนตรี แต่พวกเขากลับทำได้ยอดเยี่ยม ตัวเพลงมีเลเยอร์ไม่ต่ำกว่า 8 ระดับ แต่สามารถผสมผสานเข้ากันภายใน 3 นาทีของความยาวเพลงอย่างลงตัว

ชื่ออัลบัม Attack on Memory น่าจะมาจากแทร็คชื่อ No Sentiment อ่านจากบทสัมภาษณ์ของ Dylan เขาบอกว่าเขาเบื่อหน่ายกับทิศทางของวงการดนตรีอินดี้ที่เน้นพวก Nostalgia และงานอิเล็กทรอนิกส์ย้อนยุคจนเกินไป การทำอัลบัมนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการสื่อว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะตามกระแสนี้อีกต่อไป

Attack on Memory มีความเป็น Original แทบไร้การปรุงแต่งใด ๆ ดิบ หยาบ หนัก โมโหโกรธา มืดหม่น สับสน กดดันและหดหู่,เสียงร้อง (ตะโกน) ของ Dylan ที่จริงจังซีเรียสกว่าเดิมมาก เป็นชิ้นงานที่สมาชิกคนอื่น ๆ ในวงได้มีส่วนร่วมในการผลิตและบันทึกเสียงเป็นครั้งแรก ทำให้ Cloud Nothings มีความเป็นวงดนตรีจริง ๆ มากกว่างานในรูปแบบ Solo Project ที่ผ่าน ๆ ของ Dylan Baldi ผมให้ 8.3 ครับ