เริ่มต้นอินโทรด้วยเสียงแปร่ง ๆ แห้ง ๆ ของกีตาร์จาก Albert และ Nick ที่ประสานเสียงกันอย่างเข้าขา โดดเด่นและหอนออกมาในคีย์ที่สูงทีเดียว ผมโคตรชอบเลยเพราะเสียงกีต้าร์แบบดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาได้กลับมาแล้ว
พอมาถึงท่อน Verse ซึ่งปกติแล้วเสียงร้องของ Julian มักเริ่มต้นในโทนต่ำก่อน แต่เพลงนี้เขากลับเปลี่ยนมาร้องคีย์สูง เปล่งเสียงร้องออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเข้ากับเมโลดี้เพลงได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของเขาเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันเสียงสับกีตาร์ของ Albert เริ่มกระโดดไปกระโดดมาและแย็บเป็นจังหว่ะ ๆ อย่างชัดเจน เสียงเบสไลน์สวย ๆ ของ Nikolai เริ่มโผล่ขึ้นมา ทำให้เพลงมีริธึ่มและกรู๊ฟที่น่าฟังเพิ่มเข้าไปอีกระดับ
มาถึงท่อนฟรีคอรัส ที่มีเสียงริฟฟ์กีตาร์เจ๋ง ๆ พร้อมด้วยเสียงร้องแบ็คกิ้งในโทนคีย์ต่ำร้องเบา ๆ คลอตามเสียงร้องลากยาวของ Julian ไปเรื่อย ๆ เกือบจะเป็นท่อนฮุกของเพลงไปแล้ว ถ้าไม่มีท่อนคอรัสซึ่งประดิษฐ์ซาวนด์ออกมาได้อย่างติดหูสุด ๆ ได้เสียงร้องกระชากห้าว ๆ ของ Julian ยิ่งมาพร้อมกับการร้องประสานเสียงโทนคีย์สูงยิ่งเพิ่มระดับเอ็นโดฟินให้คนฟังเข้าไปอีก เป็นอีกครั้งสำหรับหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ในแทร็คนี้ ในคอรัสรอบที่ 2 นอกจากจะได้ยินเสียง Harmony แล้ว พวกเรายังจะได้ยินเสียงร้องแบ็คกิ้งเพิ่มเข้าไปอีก และจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในท่อนฟรีและคอรัสครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายในเพลง
พอมาถึงท่อนโซโลกีตาร์นอกจากซาวนด์ดั้งเดิมของพวกเขาจะกลับมาแล้ว ยังเพิ่มความแปลกใหม่ด้วยซาวดน์ Distortion ยืด ๆ ยาน ๆ จากเสียงกีต้าร์ในช่วงท้ายของท่อนโซโล [2:53 นาที] ฟังแล้วนึกถึงเสียงกีตาร์ในเพลงเก่า ๆ ของ Weezer ขึ้นมาทันที หลังจากนั้นก็ต่อด้วยท่อนฟรีและคอรัสรอบสุดท้าย ก่อนจะจบลงอย่างยอดเยี่ยมด้วยเอาท์โทรซึ่งคล้ายท่อนอินโทรเปี๊ยบแต่เป็นแบบเวอร์ชั่นสั้น ๆ เพลงมีความยาวทั้งหมด 3:55 นาที ถือเป็นเพลงที่มีความยาวเพลงหนึ่งในบรรดาเพลงของพวกเขาทีเดียว
ชอบท่อนเนื้องร้อง "I've been out around this town. And everybody's been singing the same song ten years." เดาว่า Julian คงพูดถึงวงอินดี้ร็อคอื่นๆ ที่พยายามเอาซาวนด์ของ The Strokes มาใช้ แม้จะผ่านไป 10 ปี นับตั้งแต่อัลบัมชุดแรกของพวกเขา "Is This It" ออกมาแล้วก็ตาม ปัจจุบันพวกเราก็ยังคงได้ยินวงเหล่านี้เล่นซาวนด์แบบ The Strokes เหมือนเดิม...แม้กระทั่งพวกเขาเองก็ตาม haha
ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ สำหรับวงที่เกือบจะล่มอยู่แล้วระหว่างการอัดเสียงช่วงแรก [Julian ทำตัวแปลกแยกจากสมาชิกที่เหลือคนอื่น ๆ ถึงขนาดแยกออกมาอัดเสียงร้องคนเดียว] ว่าจะทำเพลงออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าน ยากลำบาก และทุกข์ทรมานขนาดนั้นมาก่อน
ใครที่ยังไม่เคยติดตามผลงานของ The Strokes อย่างจริงจังมาก่อน ถ้าฟังเพลงนี้แล้วทำให้เลือดสูบฉีดในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องวนกลับไปฟังครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นสิบ ๆ รอบ นั่นหมายถึงคุณกำลังหลงรัก The Strokes เข้าไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว อดใจรออีกนิดเพราะอัลบัมใหม่นี้กำลังจะออกมาในปลายเดือนนี้ 21 มี.ค. บอกได้คำเดียวว่า They are returning to their top form! :-]
