จากความสำเร็จอย่างมหาศาลของอัลบัมเดบิวของพวกเขา หลายคนรวมทั้งตัวผมก็ลุ้นด้วยความกังวลว่า อัลบัมลำดับที่ 2 จะออกมาได้ยอดเยี่ยมเทียบเท่าชุดแรกหรือไม่ แต่เมื่อพวกเราได้ฟังเพลง "Helplessness Blues" ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ก็ช่วยบรรเทาความกังวลใจดังกล่าวได้บ้าง เพราะุถือเป็นแทร็คที่ยอดเยี่ยมเทียบเท่าำหลาย ๆ เพลงจากอัลบัมก่อนได้เลย และยิ่งพวกเขาทยอยปล่อยแทร็คอื่น ๆ ในอัลบัมตามออกมาไม่ว่าจะเป็น "Grown Ocean" หรือ "Battery Kinzie" ก็ยิ่งทำให้พวกเราคลายความกังวลลงไปได้เรื่อย ๆ ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เราเริ่มเกิดความเชื่อมั่นต่องานชิ้นนี้ของพวกเขา
อัลบัม "Helplessness Blues" เป็นงานที่พวกเขาใช้เวลาทำค่อนข้างยาวนานทีเดียว ทั้งที่จริงแล้ว พวกเขาวางแผนไว้ว่าจะปล่อยมันออกมาก่อนหน้านี้ แต่การบันทึกเสียงที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำให้พวกเขาพอใจกับมันเลยสักครั้ง รวมทั้งตัว Robin Pecknold ซึ่งถือเป็นมันสมองหลักของวง ก็ประสบภาวะตีบตันทางความคิด โดยครั้งหนึ่งเขาถึงกับเอ่ยว่า ไม่รู้จะเขียนเพลงในอัลบัมนี้เกี่ยวกับอะไรดี และก็ไม่รู้ว่าจะเขียนเพลงขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างไร นอกจากนี้ การทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับผลงานชินนี้ของ Pecknold ได้ส่งผลทำให้เขาต้องเลิกลากับแฟนตัวเอง แต่ใครจะเชื่อว่าหลังจากที่แฟนของเขาได้มีโอกาสฟังบทเพลงที่มหัศจรรย์ในอัลบัมนี้ เธอได้กลับมาคืนดีกับ Pecknold ในท้ายที่สุด
ผมคงไม่ลงลึกไปในรายละเอียดของทั้ง 12 บทเพลงในอัลบัม คงได้แค่เพียงบอกว่า นี่คือผลงานเพลงที่ยอดเยี่ยมและคลาสสิคที่สุดงานหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งโลกดนตรี เป็นผลงานที่ช่วยพยุงรักษาไว้ซึ่งศิลปะดนตรีในยุคปัจจุบัน เนื้อหาเพลงมีความลุ่มลึกและมีชั้นเชิง "So now, I am older/ Than my mother and father/ When they had their daughter/ Now, what does that say about me?" การเรียบเรียงดนตรีมีรายละเอียดและหลายระดับชั้น เสียงร้องประสานที่ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนงานชุดก่อน มีเมโลดี้เพลงที่ไพเราะและสวยงาม เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Pecknold ที่ราวกับเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งกำลังเล่นในบทเพลง ฟังครั้งแรกอาจจะไม่คลิกเลยทีเดียว แต่เมื่อให้เวลากับอัลบัมนี้ ศึกษาเนื้อหาของเพลง หามุมสงบในการฟังทั้ง 12 แทร็คติดต่อกัน แล้วคุณจะพบว่ายิ่งฟังเท่าไรก็จะยิ่งหลงรักอัลบัมนี้มากขึ้นเท่านั้น สำหรับใครที่เคยชื่นชอบงานของ Fleet Foxes ตั้งแต่งานชุดแรกและอีพีของพวกเขามาแล้ว งานชุดที่ 2 นี้ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน แต่หากใครที่ยังไม่เคยฟังงานพวกเขามาก่อน ผมอยากให้หางานชุดนี้มาฟังให้ได้ และหากติดใจและหลงรักในดนตรีของพวกเขาขึ้นมา การตามเก็บงานเดบิวและอีพีของพวกเขาเพื่อมาฟังและเก็บสะสมไว้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ ผมให้ 9.5 คะแนน
"Lorelai"
