เปิดอัลบัมด้วย “Lion’s Share” ที่ไลน์ของเปียโนทำออกมาได้งดงาม ขณะเสียงร้องสไตล์ Falsetto ของ Hayden Thorpe ทำให้เพลงมีความพิเศษ ไพเราะน่าฟังมากยิ่งขึ้น // “Bed of Nails” ที่มีจังหว่ะเร็วขึ้นอีกมาหน่อย เสียงคีบอร์ดเด้งไปเด้งมา สอดประสานกับซาวนด์กีตาร์ที่คอยแย็บเป็นจังหว่ะ ๆ เป็นเพลงอิเล็กทรอนิกส์ตื้ด ๆ ที่ฟังแล้วเพลิดเพลินลื่นไหลดีเหลือเกิน // “Deeper” เพลงช้าที่ผมฟังแล้วนึกถึงซาวนด์ดนตรีของวง Dirty Projectors ที่ผสมเสียงร้องของ Guy Garvey นักร้องนำวง Elbow มีจังหว่ะแบบค่อยเป็นค่อยไปผสมกลิ่นอายดนตรีแอมเบี้ยนท์นิด ๆ // “Loop The Loop” ขึ้นต้นอินโทรด้วยซาวนด์ของอคูสติกกีตาร์สวย ๆ Hayden Thorpe ร้องออกมาได้อย่างปราณีตเหลือเกิน เมโลดี้ที่ลื่นไหลของเพลงสามารถสะกดคนฟังให้อยู่นิ่ง ๆ เพื่อดื่มด่ำกับความสวยงามของเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี// “Plaything” อารมณ์เพลงค่อนข้างหม่น เสียงร้องของ Hayden Thorpe ซีเรียสขึ้น ถือเป็นเพลงที่มืดมัว และเข้มที่สุดในอัลบัมนี้ // “Invisible” ฟังเพลงนี้แล้วผมนึงถึงงานแรก ๆ ของวง Elbow สงบ นิ่ง และ เยือกเย็น // “Albartoss” Hayden Thorpe ร้องสไตล์ Fossette ได้อย่างมีชั้นเชิงและเฉียบขาดเหลือเกิน ซาวนด์ของกลองมีความแหลมคม ไลน์เปียโนและกีตาร์ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สมแล้วที่ถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ล ผมชอบเพลงนี้มากที่สุดในอัลบัมครับ // “Reach A Bit Further” เสียงกีตาร์ที่ตอดไปตอดมา ฟังแล้วชวนให้ผมนึกถึงงานของ Radiohead // “End Come Too Soon” อีกเพลงที่เป็นไฮไลน์จากอัลบัมนี้ มีความยาวถึงกว่า 7 นาทีครึ่ง ซาวนด์กีตาร์ที่ยั่วยวน มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล
Wild Beasts ทำซาวนด์ออกมาโดดเด่นและแตกต่างจากวงอังกฤษทั่วไป ใครที่เบื่อหน่ายกับวงการดนตรีของอังกฤษ ที่ขยันทำซาวนด์ออกมาเดิม ๆ คล้าย ๆ กันเกือบทุกวง และดูเหมือนยังคงย่ำอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหนเลยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา// Smother คือ อัลบัมที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูซากปรักหักพังดังกล่าวได้ครับ :D
8.9 ครับ
