Saturday, April 30, 2011

Cass McCombs - WIT'S END

Cass McCombs ศิลปินนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน โดยก่อนที่เขาจะทำงานเพลง เขาได้ใช้ชีวิตแบบร่อนเร่พเนจรตามสถานที่ต่าง ๆ ในอเมริกา ใครนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงหนังอย่าง Into The Wild ที่พระเอกของเรื่องเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วอเมริกานั่นแหล่ะ/ ระหว่างการเดินทางนั้น McCombs ก็ฝึกฝนเขียนเพลงไปเรื่อย ๆ ในเวลาเดียวกัน/ พอเงินหมดกระเป๋าจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่ California แล้วจึงเริ่มต้นทำผลงานเพลง/ ปัจจุบัน McCombs มีลองเพลย์ 5 ชุด และอีก 1 อีพี ผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักจากนักฟังเพลงเป็นอย่างดี คือ งานชุดที่ 3 Dropping the Writ และชุดที่ 4 Catacombs

WIT’S END คือ งานสตูดิโออัลบัมลำดับที่ 5 วางแผงเมื่อ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา มีทั้งหมด 8 เพลง ความยาวกว่า 47 นาที/ เปิดอัลบัมด้วย “County Line” แทร็คที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ McCombs ร้องสไตล์ Falsetto สลับกับการร้องในคีย์ปานกลาง แถมด้วยท่อนฮัมเพลง “โว โว่ โว้...” ที่เพิ่มความหลากหลายในรายละเอียดของเพลง ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพลงที่ทรงพลังที่สุดในอัลบัมนี้/ "The Lonely Doll" เพลงที่มีเมโลดี้น่ารัก คิกขุ โดดเด่นด้วยเสียงจากระนาดฝรั่ง [Xylophone] เสียงร้องของ McCombs ใสและหวานขึ้น เป็นเพลงไพเราะน่าฟังและน่าจะติดหูได้ไม่ยาก ฟังแล้วผมนึงถึงบรรยากาศฟ้าหลังฝนขณะที่เรากำลังตั้งแคมป์อยู่ในป่าแห่งหนึ่ง รู้สึกถึงความเย็นสบาย ปลอดโปร่ง แต่ก็แฝงด้วยความเหงาและเศร้าในเวลาเดียวกัน/ “Buried Alive” ให้บรรยากาศที่เศร้าและวังเวง McCombs ร้องควบคู่ไปกับเสียงอคูสติกกีตาร์ มีเสียงวูบวาบของกีตาร์ไฟฟ้าโผล่มาเป็นช่วง ๆ เหมือนต้องการให้คนฟังรู้สึกสั่นเครือและหล่อนเป็นระยะ ๆ แนวการร้องของ McCombs เข้ากับบรรยากาศของเพลงได้เป็นอย่างดี ทำเพลงได้มีเสน่ห์เหลือเกิน/ “Saturday Song” เพลงที่มืดหม่นยิ่งขึ้นเข้าไปอีก ทั้งจากเสียงร้องของ McCombs และเมโลดี้โดยเฉพาะเสียงคีย์ต่ำจากเปียโน แต่ส่วนตัวผมเฉย ๆ กับเพลงนี้นะ/ “Memory’s Stain” เพลงเด่นอีกเพลงในอัลบัมนี้ ความยาวกว่า 7 นาที ที่ครึ่งแรกของเพลงจะมีท่อนคอรัสที่ไพเราะ ก่อนที่ครึ่งหลังจะมีทำนองที่เปลี่ยนไป ช้าและหม่นขึ้น เสียงร้องลดน้อยลง มีเสียงจากเครื่องเป่าคลาริเนตเป็นตัวชูโรงและสร้างอารมณ์ให้กับเพลงได้เป็นอย่างดี/ “A Knock Upon the Door” เพลงปิดอัลบัมที่มีความยาวกว่า 9 นาที จังหว่ะเคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป เหมือนเรากำลังฟัง McCombs เล่่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านจากบทเพลงนี้

เป็นงานโฟร์คช้าถึงช้ามาก เน้นซาวนด์ของอคูสติกกีตาร์ แต่ก็มีเครื่องดนตรีอื่นๆ อย่าง ออร์แกน เปียโน ระนาดฝรั่ง หีบเพลง เครื่องเคาะจังหว่ะ และเครื่องเป่า เล่นรวมอยู่ด้วย/ เสียงของ McCombs ที่หวานและเศร้าในเวลาเดียวกัน ร้องแบบเสียงกระซิบกระซาบสไตล์เพลงกล่อมเด็ก ช่วยทำให้เพลงน่าฟังและมีความลงตัวกับเมโลดี้ของเพลงแบบนี้ โครงสร้างเพลงมีรายละเอียดดี เป็นอัลบัมที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่มืดสลัว เศร้า เงียบเหงา รู้สึกถึงความลึกซึ้งและความมีจิตวิญญาณ บรรยากาศคล้าย ๆ งานของ Elliott Smith แต่อาจจะฟังยากกว่าหน่อย/ 8.1 ครับ

"The Lonely Doll"