Sunday, April 15, 2012

The Shins - Port of Morrow

The Shins คือ วงที่เป็นตัวตนของ James Mercer และ James Mercer คือลายเซ็นต์ของ The Shins

The Shins เป็นวงแรก ๆ ที่ผมรู้จักในตอนเริ่มต้นฟังเพลงอินดี้ เริ่มฟังจากอัลบัมชุดที่สอง “Chutes to Narrow” จากนั้นจึงหาอัลบัมแรก “Oh, Inverted World” มาฟัง ทั้งสองอัลบัมนี้ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเขา แต่มาผิดหวังเล็กน้อยกับอัลบัมชุดที่สาม “Wincing The Night Away” ที่ผมฟังยังไงก็ยังคงรู้สึกเฉย ๆ

Port of Morrow คือ อัลบัมชุดที่ 4 ในรอบ 5 ปีของพวกเขา The Simple Song คือเพลงที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ยอดเยี่ยมทั้งในเรื่องของการเรียบเรียงดนตรีและบันทึกเสียง เนื้อหาของเพลงกล่าวถึงสัมพันธภาพที่โรแมนติกและการดิ้นรนด้วยตัวเอง "I know that things can really get rough when you go it alone." เพลงถัดมา It's Only Life ผมชอบมากที่สุดเพลงหนึ่งในอัลบัมนี้ เป็นเพลงจังหว่ะช้า ๆ ที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ลุ่มลึก เสียงร้องของ James เข้าถึงอารมณ์เพลงเป็นอย่างดี เพลงพยายามสื่อให้เรามีความหวังและมองโลกในแง่บวก “I’ve been down the very road you’re walking now, It doesn’t have to be so dark and lonesome. Take a while till we can figure this thing out and turn it back around” แนะนำเปิดเพลงนี้ให้คนที่เราปลื้มฟังให้ได้ครับ :) สำหรับใครที่ยังโหยหาบรรยากาศงานสองชุดแรก ก็พบได้จากเพลง Bait and Switch และ September อีกเพลงที่ฟังแล้วรับรองจะต้องหลงรักคือ No Way Down ฟังแล้วรู้สึกถึงความสว่างสดใส ไพเราะจับใจ อัลบัมนี้ยังเสนอความหลากหลายให้กับคนฟังอย่างเพลง Fall of ’82 ที่มีกลิ่นอายของดนตรีแจ๊ซ โครงสร้างเพลงทำได้อย่างมีชั้นเชิง เต็มไปด้วยรายละเอียดและลูกเล่น James ร้องสไตล์ falsetto อย่างยอดเยี่ยมในช่วงท้ายเพลง อีกเพลงช้าคือ 40 Mark Strasse ที่การร้องประสานเสียงเป็นตัวช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับเพลงนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

มีวงดนตรีหลายวงที่ดังเป็นพลุแตกจากอัลบัมแรก ๆ แต่พองานหลังๆ ของพวกเขาออกมา ก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจหรือได้รับการยกย่องและยอมรับแต่อย่างใด สำหรับประเด็นนี้ผมคงต้องขอยกเว้นให้กับ The Shins เพราะ Port Of Morrow คือการกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของพวกเขา

งานชุดนี้คล้ายงานอัลบัมยอดเยี่ยมอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องฟังหลายรอบ ผมใช้เวลาพักหนึ่งทีเดียวในการเข้าถึง สุดท้ายไม่ผิดหวังเลยที่เป็นเจ้าของอัลบัมชุดนี้

Sunday, March 11, 2012

Grimes - Visions

Grimes คือ นักดนตรีนักแต่งเพลงที่มาจากมอนทรีออล ประเทศแคนาดา มีชื่อจริงว่า Claire Boucher อัลบัมนี้ "Visions" คือผลงานอัลบัมเต็มลำดับที่ 3 ปล่อยออกมาเมื่อ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เธอใช้เวลาในการบันทึกเสียงเพียง 3 อาทิตย์ที่อพาทเมนท์ตัวเอง นอกจากนี้ การออกแบบหน้าปกอัลบัม การออกแบบท่าเต้น และกำกับเอ็มวี ล้วนเป็นฝีมือเธอเองทั้งสิ้น

Tuesday, March 6, 2012

Youth Lagoon - The Year of Hibernation

ผมซาบซึ้ง The Year of Hibernation อย่างลึกสุดใจ ช่วงที่เดินทางกลับบ้านที่โคราชในเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว เป็นห้วงเวลาที่อากาศกำลังเย็นสบายจนถึงหนาวเหน็บ(ตอนกลางคืน) จำได้ว่าเปิดดู MV เพลง "Montana" บน Youtube เป็นสิบ ๆ รอบ

Friday, January 27, 2012

Cloud Nothings - Attack on Memory

Attack on Memory เป็นชื่อที่ต้องการสื่อให้เหล่าฮิฟสเตอร์ตระหนักว่า งานอัลบัมลำดับที่ 2 นี้ จะไม่เป็นอย่างที่จินตนาการหรือคาดหวังไว้อย่างแน่นอน มันจะเป็นงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากนำมาเปรียบเทียบกับงานรวมซิงเกิ้ลและงานเดบิวที่ผ่านมา

Monday, June 13, 2011

Fucked Up - David Comes to Life

ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคนฟังเพลงหลายคนในบ้านเราไม่รู้จักวง Fucked Up จำได้ว่าตอนนั้นซื้อ ‘The Chemistry of Common Life’ อัลบัมลำดับที่ 2 ของพวกเขาจากอเมซอนญี่ปุ่น เมื่อพัสดุที่บรรจุอัลบัมนี้มาถึงที่ทำงานผมในขณะนั้น พอแกะออกมาก็มีเพื่อนชาวต่างชาติที่เป็นคนอเมริกัน เข้ามาถามผมว่าในโลกนี้มีวงดนตรีชื่อแบบนี้ด้วยหรอ 555

Sunday, June 12, 2011

Woods - Sun and Shade

Woods เป็นวงดนตรีแนว Freak-folk , Lo-fi pop จากย่านบรูคลิน นิวยอร์คซิตี้ สมาชิกวงประกอบด้วย Jeremy Earl (ร้องนำและกีตาร์), Kevin Morby (มือเบส), Jarvis Taviniere (เล่นเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท) และ G. Lucas Crane (นักเทคนิคในเรื่องการบันทึกเสียงด้วยระบบเทป) ‘Sun and Shade’ คือ สตูดิโออัลบัมเต็มลำดับที่ 6 วางแผงไปเมื่อ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา

Wednesday, May 25, 2011

Wild Beasts - Smother

Wild Beasts คือ วงดนตรีอินดี้ 4 ชิ้นจากเมือง Kendal ประเทศอังกฤษ// Smother คือ สตูดิโออัลบัมลำดับที่ 3 ของพวกเขา ปล่อยออกมาเมื่อ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

Wednesday, May 11, 2011

Gang Gang Dance - Eye Contact

Eye Contact คือ อัลบัมลำดับที่ 5 ของวงจากบรูคลิน นิวยอร์คซิตี้ที่ชื่อ Gang Gang Dance หรือ GGD สำหรับชื่อย่อ อัลบัมนี้มีด้วยกันทั้งหมด 10 เพลง พวกเราคงมีโอกาสได้ฟังเพลง "Glass Jar" และ "MindKilla" ซึ่งปล่อยออกมาก่อนหน้านี้มากันบ้างแล้ว

Friday, May 6, 2011

Fleet Foxes - Helplessness Blues

ในปัจจุบันการที่ผมจะกลับไปฟังงานเก่า ๆ นั้น ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก [เพราะสมัยนี้มีศิลปินและวงดนตรีปล่อยผลงานดี ๆ ออกมาเยอะแยะเหลือเกิน จนบางครั้งก็แทบฟังกันไม่ทันแล้ว] ยกเว้นอัลบัมนั้นต้องคลาสสิคจริง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ไตเติ้ลอัลบัม "Fleet Foxes" ที่ออกในปี 2008 ของวงอินดี้โฟล์คจากซีแอตเติลอย่าง Fleet Foxes หากใครที่เคยฟังงานชุดนี้ คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือหนึ่งในอัลบัมที่เหล่าฮิพสเตอร์ควรหามาฟังเป็นอย่างยิ่ง

Saturday, April 30, 2011

Cass McCombs - WIT'S END

Cass McCombs ศิลปินนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน โดยก่อนที่เขาจะทำงานเพลง เขาได้ใช้ชีวิตแบบร่อนเร่พเนจรตามสถานที่ต่าง ๆ ในอเมริกา ใครนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงหนังอย่าง Into The Wild ที่พระเอกของเรื่องเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วอเมริกานั่นแหล่ะ/ ระหว่างการเดินทางนั้น McCombs ก็ฝึกฝนเขียนเพลงไปเรื่อย ๆ ในเวลาเดียวกัน/ พอเงินหมดกระเป๋าจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่ California แล้วจึงเริ่มต้นทำผลงานเพลง/ ปัจจุบัน McCombs มีลองเพลย์ 5 ชุด และอีก 1 อีพี ผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักจากนักฟังเพลงเป็นอย่างดี คือ งานชุดที่ 3 Dropping the Writ และชุดที่ 4 Catacombs

Friday, April 22, 2011

tUnE-yArDs - WHOKILL

tUnE-yArDs เป็นโปรเจ็คดนตรีของ Merrill Garbus ศิลปินหญิงชาวอเมริกันที่เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรี// WHOKILL คือ งานสตูดิโออัลบัมชุดที่ 2 ปล่อยออกมาเมื่อ 19 เม.ย. ที่ผ่่านมา นอกจากตัว Merrill แล้ว ยังมีมือเบสประจำวงอย่าง Nate Brenner, Eli Crews ที่เป็นซาวนด์เอ็นจิเนียร์ และนักดนตรีคนอื่น ๆ มาช่วยทำงานชิ้นนี้ด้วย การบันทึกเสียงก็ทำกันที่สตูดิโอที่ได้มาตรฐาน แตกต่างจากงานเดบิวของเธอ BiRd-BrAiNs ที่ผลิตออกมาแบบ Bedroom

Thursday, April 21, 2011

Destroyer - Kaputt

Destroyer เป็นวงดนตรีที่มาจากแวนคูเว่อร์ ประเทศแคนาดา โดยมี Dan Bejar เป็นแกนนำหลักของวง// Kaputt คืออัลบัมเต็มชุดที่ 9 ของพวกเขาเข้าไปแล้ว

Friday, April 15, 2011

Dirty Beaches - Badlands

Dirty Beaches เป็นชื่องานโซโลโปรเจ็คของ Alex Zhang Hungtai ศิลปินเชื้อสายเอเชียวัย 30 ปี เกิดที่ไต้หวันแต่เติบโตในแคนาดา Badlands เป็นงานอัลบัมเต็มชุดแรกของ Hungtai แม้จะมีแค่ 8 เพลง ให้ความยาวประมาณ 27 นาทีก็ตาม วางขายเมื่อ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา

Wednesday, April 13, 2011

Crystal Stilts - In Love With Oblivion

Crystal Stilts เป็นวงอินดี้แนวการาจ, นอยซ์ และโพสต์พังค์จากบรูคลิน สหรัฐฯ พวกเขาปล่อยอัลบัมเดบิวชื่อ Alright of Night เมื่อปี 2008 ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญถึงค่อนข้างมากในแวดวงดนตรีอินดี้

Tuesday, April 12, 2011

Panda Bear - Tomboy

การประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามของ Animal Collective จากอัลบัมชุด Merriweather Post Pavilion ในปี 2009 และโซโลอัลบัมชุดที่แล้วของเขาอย่าง Person Pitch ในปี 2007 ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัลบัมยอดเยี่ยมแห่งปีจากนิตรสารดนตรีอินดี้หลายฉบับ ล้วนน่าจะเป็นแรงกดดันต่อ Noah Lennox หนึ่งในมันสมองหลักของ Animal Collective ไม่มากก็น้อยต่อการผลิตผลงานเดี่ยวของเขาในลำดับต่อมา

Wednesday, April 6, 2011

Craft Spells - Idle Labor

"Idle Labor" เป็นอัลบัมที่ถูกกล่าวขวัญถึงค่อนข้างเยอะในหมู่บล็อกดนตรีอินดี้ Craft Spells เป็นวงแนวดรีมป๊อป, ซินธ์ป๊อปและซิลล์เวฟ ที่มาจากซีแอตเติ้ล ประกอบด้วย Justin Vallesteros [มันสมองหลักของวง], Jack Smith, Peter Michel และ Javier Suarez

Monday, April 4, 2011

Kurt Vile - Smoke Ring My Halo

Kurt Vile คือ ศิลปินที่เป็นทั้งนักร้องนักดนตรีจากฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย อเมริกา อัลบัม "Smoke Ring My Halo" คืออัลบัมเต็มชุดที่ 4 ของเขา วางแผงเมื่อ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา

Thursday, March 31, 2011

Julianna Barwick - The Magic Place

เป็นอัลบัมเพลงดิจิตอลที่ผมซื้อมาในราคาถูกเพียงประมาณ 180 บาทเท่านั้นเอง สำหรับ "The Magic Place" อัลบัมเต็มชุดที่ 2 ของ Julianna Barwick ศิลปินจากฝั่งอเมริกา

Wednesday, March 30, 2011

The Pains of Being Pure at Heart - Belong

"Belong" คือ อัลบัมชุดที่ 2 ของวงอินดี้ร็อคจากนิวยอร์ค "The Pains of Being Pure at Heart" มีด้วยกันทั้งหมด 10 เพลง พวกเขาได้ Flood [เคยโปรดิวซ์งานของ My Bloody Valentine, The Smashing Pumpkins, Depeche Mode ฯลฯ] เป็นโปรดิวเซอร์ และ Alan Moulder เป็นคนมิกซ์งานชุดนี้ให้

Monday, March 28, 2011

The Strokes - Angles

The Strokes - "Angles" กลับมาพร้อมซาวนด์ที่หลากหลายขึ้น อย่างเพลง "Machu Picchu" เพลงสนุก ๆ ขี้เล่น ที่มีกลิ่นอายดนตรีเร็กเก้ผสมอิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นแทร็ควอร์มอัพในการฟังงานที่เหลือในชุดนี้ได้เป็นอย่างดี//